ทริปเส้นทางวงกลม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 4,080 โค้ง เส้นทางแห่งความสุข คิดถึงที่สูด..เที่ยวตามสูตรนี้ เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 2 จังหวัดภาคเหนือที่เดินทางเที่ยวเป็นรูทเดียวกันได้แบบง๊ายง่าย จะนั่งรถสาธารณะไป ขับรถยนต์ส่วนตัวไป หรือว่าจะเช่ามอเตอร์ไซค์ขับกันแบบชิลล์ๆ ก็ยังได้ รับรองเลยว่าทุกคนจะได้ดื่มด่ำธรรมชาติ กันจนฟินอย่างแน่นอน และเส้นทางนี้เรียกกันว่า ‘เส้นทางวงกลม’ เส้นทางแห่งความสุข ที่ใช้เวลาเที่ยวสัก 3 วัน 2 คืนเก็บครบแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าเส้นทางวงกลมทริปนี้เราจะไปเที่ยวที่ไหน กินอะไร นอนแบบไหนบ้างตามมาดูกันเลย
DAY1
ทริปนี้เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เริ่มต้นทริปกันที่เชียงใหม่-ปาย เพราะทริปนี้เราจะเที่ยวตามเส้นทางวงกลม (แบบทวนเข็มนาฬิกา) เริ่มออกเดินทางจากเชียงใหม่กันตั้งแต่เช้ามืดกันเลย ใช้เวลาเดินทางจากเชียงใหม่ถึงปายประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
และแล้วเราก็เดินทางมาถึง สะพานประวัติศาสตร์ปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน แลนด์มาร์คที่ใครๆ ผ่านมาทางนี้ก็ต้องแวะลงมาแช๊ะภาพเก็บไว้ บรรยากาศตอนเช้าก็ฟินสุดๆ มีหมอกจางๆ ให้เราได้สูดกันจนเต็มปอดเลย
มุมนี้ก็ถ่ายรูปได้น่ารักไม่แพ้กัน ผู้พิชิต 762 โค้ง เชียงใหม่-ปาย ใครที่มาแล้วก็อย่าลืมมาเก็บภาพความทรงจำกันที่มุมนี้นะครับ
เดินทางมาถึงกันในช่วงเช้า ขอมาแวะเช็คอินกันที่ร้าน คอฟฟี่ที่สะพาน กันหน่อยครับ ตัวร้านอยู่ตรงข้ามสะพานประวัติศาสตร์ปายเลย มีมุมให้นั่งให้ถ่ายรูปหลากหลาย ที่เด่นๆ เลยก็เห็นจะเป็นเมนูกาแฟร้อนนี่ล่ะครับ ซึ่งผมก็ไม่พลาดที่จะสั่ง
ขับรถจากสะพานประวัติศาสตร์ปายมาสักพักก็มาแวะกันที่ “บ่อน้ำพุร้อนไทรงาม” บ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่ต้องบอกเลยครับว่าฟินสุดๆ
- Price: ค่าเข้าอุทยานฯ คนละ 30 บาท ค่าเข้าบ่อน้ำร้อน คนละ 20 บาท
น้ำใสแจ๋ว ฟินสุดๆ ไปเลย แถมยังช่วยให้หายเหนื่อย เมื่อยล้า จากการนั่งรถนานๆ ได้อีกด้วย
ระหว่างทางที่จะไปหมู่บ้านจ่าโบ่ เลยแวะอีกหนึ่งจุดเช็คอิน ดอยกิ่วลม จุดชมวิวที่เราจะได้เห็นวิวภูเขาสวยๆ และยิ่งใหญ่สุดๆ
ไฮไลท์อยู่ที่ชิงช้าชาวเขานี่ล่ะ มองแล้วอาจจะดูหวาดเสียว แต่ถ้าได้เล่นคือสนุกจนไม่อยากลงกันเลย อ้ะๆ! ถ้าได้ขึ้นชิงช้าแล้ว อย่าลืมถ่ายรูปมาแชร์กันบ้างนะครับ
และเราก็มาถึง “บ้านจ่าโบ่” หมู่บ้านชาวเขาเผ่าลาหู่ที่ชาวบ้านยังคงใช้วิถีชีวิตกันแบบดั้งเดิม มีเสน่ห์และความน่ารัก ซึ่งคืนนี้เราจะพักกันที่นี่ครับ แต่ก่อนเข้าที่พักขอเดินเตร็ดเตร่ในหมู่บ้านกันก่อน
บ้านจ่าโบ่ หมู่บ้านเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
เดินทางมาเหนื่อยๆ ขอแวะจิบเครื่องดื่มสดชื่นๆ กันที่ร้าน เด็กดอย คอฟฟี่ จ่าโบ่ คาเฟ่บรรยากาศดี เครื่องดื่มหลักสิบ วิวหลักล้าน
ขอจัดเมนูอิตาเลี่ยนโซดาให้ชื่นใจสักหน่อย หรือใครที่เป็นสายกาแฟขอแนะนำให้สั่งกาแฟของที่นี่เลย เพราะกาแฟรสชาติดีมากๆ
คืนนี้เรานอนกันที่ ลานกางเต็นท์จ่าทอ & โฮมสเตย์ เป็นที่พักสไตล์ชิลล์ๆ อยู่ใกล้กับร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ ซึ่งมีให้เลือกทั้ง บ้านพัก 2 คน บ้านเหมาหลัง และเต็นท์
บรรยากาศและวิวคือดีงามอลังการสุดๆ บอกเลยว่าใครเห็นเป็นต้องชอบ
จบทริปวันแรกกับทริปเส้นทางวงกลม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน กันที่บ้านจ่าโบ่ สำหรับคืนนี้ขอตัวไปนอนพักผ่อนเอาแรงเที่ยวต่อกันในวันพรุ่งนี้
DAY2
วันที่สองของทริป หลังจากที่เมื่อวานเราพักกันที่บ้านจ่าโบ่กันไปแล้ว วันนี้เราจะมุ่งหน้าไปยัง ปางอุ๋ง แวะชมบรรยากาศและ นอนค้างที่ บ้านรักไทยอีก 1 คืน
วันนี้ตื่นแต่เช้าเพราะอีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้านจ่าโบ่ก็คือการไปปืนเขาดูพระอาทิตย์ขึ้น “ยอดดอยภูผาหมอก” การเดินทางก็ง่ายมากๆ ครับ ห่างจากหมู่บ้านจ่าโบ่แค่ 500 เมตรเท่านั้นเอง
ขอบอกเลยว่าถ้ามาถึงบ้านจ่าโบ่แล้วต้องห้ามพลาดเลยนะครับ เพราะวิวข้างบนสวยและอันซีนมากๆ
ออกเดินทางต่อมาที่ ปางอุ๋ง สถานที่ท่องเที่ยวและจุดกางเต็นท์ในฝันของนักเดินทาง บรรยกาศชิลล์มากๆ ครับ ผมก็ไม่พลาดที่จะแวะมาถ่ายรูปและชมบรรยากาศ
- Price: ค่าเข้าคนละ 50 บาท
ลานกางเต็นท์ริมทะเลสาบร่มรื่นด้วยต้นสน
ขอแชะภาพสักมุมก่อนเดินทางต่อ ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสผมจะลองมากางเต็นท์นอนที่ปางอุ๋งดูสักครั้ง
เดินทางมาต่อกันที่ “หมู่บ้านรักไทย” หมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่โดดเด่นด้วยบ้านเรือนริมทะเลสาบ คืออากาศดีมากๆ ไฮไล์ของที่นี่ก็อยู่ตรงวิวทะเลสาบกลางหมู่บ้านนี่ล่ะ ดีงามสุดๆ และแวะเช็คอินกันที่ร้าน ลีไวน์รักไทย อาหารจีนยูนนาน กันที่แรก
ถ้ามาร้าน “ลีไวน์รักไทย อาหารจีนยูนนาน” แล้ว ก็ต้องห้ามพลากเมนูเด็ดที่เป็นตัวชูโรงของร้านอย่าง ยำใบชา และ ขาหมูหมั่นโถว นั่งกินไป
นั่งกินไป มองวิวทะเลสาบไป ฟินสุดๆ
และที่พักของเราในคืนนี้ก็คือ “ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท” ที่พักกลางไร่ชาในตำนานของหมู่บ้านรักไทย บรรยกาศดีและวิวสวยมากๆ
ตัวบ้านพักตั้งอยู่กลางไร่ชา และโดดเด่นด้วยบ้านสไตล์จีนๆ เรียงรายลงไปตามเนินเขา
คนที่ชอบถ่ายรูปต้องถูกใจอย่างแน่นอน
DAY3
วันสุดท้ายของทริป วันนี้ออกเดินทางจากหมู่บ้านรักไทย เข้าไปเที่ยวในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และมุ่งหน้ากลับเชียงใหม่
เช้าวันสุดท้ายของทริป เราตื่นกันตั้งแต่เช้าเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักมานั่งจิบชาริมทะเลสาบก่อนออกเดินทางต่อกันสักหน่อย
นั่งจิบชาร้อนที่ร้านกาแฟบ้านดิน ก็คือฟินสุดๆ เพราะวิวดีอย่าบอกใคร
มาถึงหมู่บ้านรักไทยแล้ว บอกเลยว่าต้องห้ามพลาดร้านนี้ นอกจากชาแล้วยังมีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ อีกด้วย
เราเดินทางต่อมากันยังตัสวดเมืองแม่ฮ่องสอน ดื่มด่ำธรรมชาติกันพอหอมปากหอมคอแล้ว เลยแวะมาเติมแต้มบุญกันที่ “วัดพระธาตุดอยกองมู”
ด้วยความที่วัดตั้งอยู่บนยอดเขาสูงทำให้มองเห็นวิวเมืองแม่ฮ่องสอน และทะเลหมอก สมกับชื่อเมืองสามหมอกจริงๆ
บนวัดพระธาตุดอยกองมูยังมีคาเฟ่เล็กๆ ที่มีชื่อเท่ๆ ว่า “ก่อนตะวันลับแนวเหลี่ยมภูผา” หรือ Before Sunset Coffee
เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่บรรยากาศดีมากๆ สามารถมองเห็นวิวภูเขา หรือถ้าหากมาในช่วงเย็นก็สามารถเห็นวิวพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย
และมาต่อกันที่ วัดจองกลาง-จองคำ ตัววัดสร้างด้วยศิลปะแบบไทใหญ่ซึ่งมีเอกลักษณ์ของความเป็นศิลปะพม่าผสมผสานอยู่ด้วยกัน ยิ่งมองจากฝั่งตรงข้ามก็จะได้เห็นวัดสะท้อนน้ำ เป็นอีกหนึ่งมุมไฮไลท์สวยๆ
ขอตัวเข้าไปขอพรและชมความงดงามก่อนนะ
มื้อเที่ยงวันนี้เราจัดเต็มกันที่ “ร้านอาหารใบเฟิร์น” ร้านอาหารพื้นเมืองแม่ฮ่องสอน ใครที่มาถึงแม่ฮ่องสอนแล้วต้องแวะมาชิมกันให้ได้
ภายในร้านประดับประดาด้วยของเก่า ของสะสม และบรรยากาศเป็นกันเองสุดๆ
ทริปวันสุดท้ายก่อนเดินทางต่อ ขอจัดเต็มกับเมนู อุ๊ปไก่ ผักกาดจอ และชุดน้ำพริกอ่อง
ขากลับเราใช้เส้นทางแม่ฮ่องสอน-แม่สะเรียง-เชียงใหม่ ซึ่งจะผ่านอำเภอฮอด จ.เชียงใหม่ และมีอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่จะไม่แวะไม่ได้เลยก็คือ “สวนสนบ่อแก้ว”
แวะถ่ายรูปกับป่าสนและลูกสน (ลูกสนสามารถเก็บมาถ่ายรูปได้ แต่อย่านำกลับไปด้วยนะครับ) ก่อนจบทริปผมขอตัวไปถ่ายรูปกับวิวสวนสนก่อนนะครับ
เป็นอย่างไรบ้างกับ “ทริปเส้นทางวงกลม 3 วัน 2 คืน เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน” หวังว่าเพื่อนๆ จะแชร์ทริปนี้เก็บไว้มาเช็คอินความฟินตามคัมภีร์เที่ยวนี้กันนะ เป็นอีกหนึ่งทริปฟินๆ ที่ควรมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง