ทริป 3 วัน 2 คืน แอ่วเหนือตามเส้นทางสายไหม สไตล์เนิบๆ “น่าน อุตรดิตถ์ แพร่”

1538
VIEWS
Share on line
Share on facebook
Share on twitter
Share on email

ทริป 3 วัน 2 คืน แอ่วเหนือตามเส้นทางสายไหม สไตล์เนิบๆ “น่าน อุตรดิตถ์ แพร่” เราได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปตามรูท “เส้นทางสายไหม” เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ และแพร่ ในช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน บอกได้คำเดียวว่าเป็นทริปที่เต็มอิ่มและคุ้มค่าสุดๆ เพราะเราได้ไปเยือนร้านผ้าไหม ซึ่งเป็นทั้งแหล่งผลิตผ้าไหม เป็นทั้งศูนย์การเรียนรู้เผยแพร่วัฒนธรรม และเป็นแหล่งจำหน่ายผ้าไหม นอกจากจะได้ชมความงดงามของผ้าไหมที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับเมืองเหนือแล้ว ยังได้ช้อปปิ้งสินค้าติดไม้ติดมือกลับมาเพียบเลย หรือหากใครไม่ได้เดินทางไปด้วยตัวเอง ก็สามารถช้อปได้ง่ายๆ เพราะบางร้านยังมีร้านค้าย่อยที่กระจายไปในแต่ละแห่งอีกด้วยนะ

เมื่อถึงแล้ว เราแวะรับประทานอาหารกันก่อนที่ ร้านวันดา 2 อ.เมือง จ.น่าน ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์น พร้อมเสิร์ฟข้าวซอยรสเด็ด เป็นการเริ่มต้นมื้อแรกของวันได้อย่างอิ่มอร่อยเลยทีเดียว

สำหรับใครที่มาเที่ยวน่านแล้วไม่ได้เยือน วัดภูมินทร์ ถือว่ามาไม่ถึง! เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง “ปู่ม่าน ย่าม่าน กระซิบรักบรรลือโลก” นั่นเอง มาถึงแล้วก็ต้องเก็บภาพเอาไว้รัวๆ

และอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่จะต้องไม่พลาดก็คือ ซุ้มต้นลีลาวดี ซึ่งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน

ออกเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่ ไร่ต้นรักษ์ออร์แกนิคฟาร์ม อ.ปัว จ.น่าน ที่พักและร้านอาหารท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศฟีลกู้ด

ถึงเวลาไปตามหาร้านผ้าไหมร้านแรกแล้ว ที่ร้านผ้าไหม กับ กลุ่มทอผ้าบ้านหล่ายทุ่ง บ้านป่าเปือย ต.ปอน อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เป็นร้านค้าชุมชนผ้าจกไทลื้อ เมื่อไปถึงเราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ด้วยการแสดงฟ้อนรำสุดอ่อนช้อย และกลุ่มทอผ้าครบวงจร แหล่งผลิตผ้าทอลายน้ำไหลไทลื้อและผ้าจกไทลื้อ ซึ่งเป็นผ้าทอลายโบราณ ถือว่าเป็นแหล่งผลิตผ้าทอมือและแปรรูปครบวงจร

สักพักก็ออกเดินทางต่อเพื่อไปพักผ่อนจิบกาแฟ ถ่ายรูปชิคๆ ที่ ร้านกาแฟไทลื้อ ร้านกาแฟยอดฮิต ซึ่งมีไฮไลท์อย่างสะพานไม้ที่ทอดยาวไปกลางทุ่ง และผ้าทอสีสันสวยสดที่พาดตกแต่งบนคานไม้ เรียงรายยาวเป็นแถว สวยงามสะดุดตาสุดๆ นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกของดีอำเภอปัวให้เลือกซื้ออีกเพียบ

ตกเย็นเราออกไปรับประทานอาหารกันที่ ร้านเฮือนเจ้านาง อ.เมือง จ.น่าน

และเช็คอินเข้าพักผ่อนที่ โรงแรมน่านกรีนเลควิว อ.เมือง จ.น่าน

DAY 2
เช้าวันใหม่เริ่มออกเดินทางไปชมเครื่องเงินที่ ศูนย์เครื่องเงินชมพูภูคา เป็นแหล่งเรียนรู้กระบวนการทำเครื่องเงิน เพื่อสืบสารและเผยแพร่ศิลปะเครื่องเงินชาวเขา ที่นี่จึงเต็มไปด้วยเครื่องเงินที่มีเอกลักษณ์และทันสมัยไปพร้อมๆ กัน

ได้เวลาไปกินอาหารดีๆ ที่เมืองลับแลกันต่อแล้ว มื้อนี้เราฝากท้องที่ ร้านม่อนลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ อิ่มหนำกับอาหารไทย และเรียกน้ำย่อยไปกับความสวยงามของผ้าซิ่นในพิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจกเมืองลับแล

แล้วไปชมความงดงามอย่างเต็มอิ่มที่ พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจก ไท – ยวน ลับแล พิพิธภัณฑ์ขึ้นชื่อที่รวบรวมผลงานของกลุ่มผ้าซิ่นตีนจกบ้านคุ้ม มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ชนิดที่ว่าผ้าทุกผืนล้วนแล้วแต่มีลวดลายไม่ซ้ำใคร หนึ่งในนั้นคือ ผ้าซิ่นทอง ที่ทอจากดิ้นทองมีเพียงสองสีเท่านั้น คือสีน้ำเงินและสีแดง ซึ่งมูลค่าสมกับความงดงามเป็นที่สุด

จากนั้นก็ไปชมผ้าทอกันต่อที่ ร้านจีรนันท์ผ้าทอน้ำอ่าง “หงษ์ไม่แล้ว แด้วไม่จอด” ชื่อเฉพาะของผ้าทอแห่งบ้านน้ำอ่าง ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ต้อนรับด้วยชุดการแสดงที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาของของชาวน้ำอ่าง ก่อนที่จะเข้าไปชมผ้าทออันมีเอกลัษณ์โดดเด่น

ต่อด้วย ร้านสมเกียรติผ้าทอ ร้านผ้าทอน้ำอ่างของแม่สมเกีรยติ เป็นผ้าทอมือลายโบราณไทยญวนน้ำอ่าง

เก็บร้านผ้าทอหลักๆ ของอุตรดิตถ์แล้ว ก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดแพร่ไปรับประทานอาหารเย็นที่ ร้านสวนอาหารบ้านฝ้าย เป็นร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแพร่เลยก็ว่าได้ พร้อมให้บริการอาหารไทย จีน ฝรั่ง และอาหารเหนือ

และไปเก็บสัมภาระพักผ่อนที่ โรงแรมเฮือน นานา บูติค ที่พักของเราในคืนนี้

DAY 3
เมื่อมาถึงแพร่แล้วจะต้องไปเยี่ยมชมวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ อย่าง วัดพระธาติช่อแฮ และยังเป็นวัดพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองประจำปีขาลอีกด้วย

เริ่มชมความงามของผ้าไหมเมืองแพร่กันที่ ศูนย์การเรียนรู้ผ้าจกเมืองลอง เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผ้าทอพื้นบ้าน ผ้าจกเมืองลอง และการย้อมผ้าสีครามธรรมชาติ ได้ชมกระบวนการปั่นเส้นฝ้ายและทอผ้า เรียนรู้การย้อมสีห้อมและครามอย่างใกล้ชิด ต่อที่ร้านชลธิชาผ้าไทย ชมอัตลักษณ์ความงดงามและมีเสน่ห์ของผ้าจกไหม ซึ่งมีการเน้นใช้การย้อมสีที่ได้จากธรรมชาติ และไปสัมผัสผ้าจกไหมลายสร้อยกาบของกลุ่มทอผ้าบ้านนามน หนึ่งในผ้าไหมลายโบราณที่เป็นเอกลัษณ์

แวะเติมพลังกันที่ ร้านปั๋นใจ๋ ที่ใครต่อใครต่างก็บอกว่าขนมจีนร้านนี้เด็ด

ปิดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ ด้วยการแวะช้อปปิ้งที่ บ้านทุ่งโฮ้ง แหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองอย่างหม้อฮ่อม ผ้าย้อมพื้นเมืองที่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแพร่ที่โด่งดังไปทั่วประเทศ จนมีคำกล่าวที่ว่า “ใครมาเมืองแพร่ ต้องซื้อหม้อฮ่อม” ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่และมีร้านค้าตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก รับรองว่าจะต้องได้หม้อฮ่อมติดไม้ติดมือกลับไปฝากที่บ้านกันอย่างแน่นอน

Review by: